ภัยแก๊งต้มตุ๋น
ขึ้นชื่อว่ามีรายชื่อในบัญชีดำ หรือ “แบล็ก ลิสต์” คดียาเสพติดแล้ว หลายคนคงถึงกับขยาด เนื่องจากช่วงหลายปีที่ผ่านมา การปราบปรามอย่างจริงจัง และ “รุนแรง” ของรัฐบาลชุดก่อน ทำเอาทั้งกลุ่มผู้ค้ายานรกและคนที่พัวพันต่างขยาดไปตาม ๆ กัน เพราะหวั่นเกรงว่าจะถูกตัดตอน ซึ่ง “ภัยใกล้ตัว” ในวันนี้ ขอฉายภาพไปยังพฤติกรรมโฉดของแก๊งมิจฉาชีพ ที่ใช้การแอบอ้างหลอกลวงเหยื่อว่าถูกออกหมายจับตามบัญชีดำในคดียา เสพติดและฟอกเงิน หากต้องการลบชื่อออกจากสารบบแล้ว จะต้องโอนเงินมาให้ โดยคนร้ายอาจหาญถึงขั้นใช้ “ศาลอาญา” ถนนรัชดาฯ ก่อเหตุเลยทีเดียว
นางจิราวรรณ สุญาณวนิชกุล อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวว่า แก๊งต้มตุ๋นจะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวน คดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระดับ “พ.ต.อ.” หลอกผู้เสียหายว่า มีชื่อติดอยู่ในแบล็กลิสต์ เหยื่อรายล่าสุดเป็นถึงญาติของผู้พิพากษาศาลอาญา รวมถึงชาวบ้านใน จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าทางศาลอาญาไม่ได้ออกหมายจับกุมญาติผู้พิพากษาและประชาชนในคดีดังกล่าวแต่อย่างใด จึงเร่งประสานไปยังดีเอสไอให้สืบสวนจับกุมขบวนการคนร้ายอย่างเร่งด่วน.
วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
ภัยเว็บแคม
ภัยเว็บแคม
นับถอยหลังอีกไม่กี่วันจากนี้ ก็จะย่างเข้าสู่ปีใหม่ พ.ศ. 2550 ซึ่งแน่นอนว่าเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ ๆ ย่อมก้าวหน้าขึ้นเป็นเงาตามตัว โดยเฉพาะในแวดวง “อินเทอร์เน็ต” ที่การสนทนา หรือ “แชต” ผ่านคอมพิวเตอร์ ผ่านโปรแกรมดังต่าง ๆ อาทิ “เอ็มเอสเอ็น” กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก “ภัยใกล้ตัว” ในวันนี้ จะฉายภาพให้เห็นถึงความน่ากลัวของโปรแกรมแชตเหล่านี้ ที่ปัจจุบัน สามารถสนทนาผ่านทางกล้องวิดีโอ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “เว็บแคม” ที่สามารถพูดคุยและเห็นหน้า กิริยาท่าทางของอีกฝ่ายได้ทุกอิริยาบถ สิ่งเหล่านี้ “มิจฉาชีพ” ได้อาศัยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี มาใช้หากินกันนักต่อนัก
มิจฉาชีพทั้งชายและหญิง จะใช้เว็บแคมหลอกทำทีมาพูดคุยกับเหยื่อผ่านโปรแกรมแชต ที่โดยมากแล้ว จะเป็นเหยื่อสาวอายุน้อย ๆ จากนั้นจะใช้โปรแกรม “SplitCam” เปิดวิดีโอ ซึ่งเป็นภาพหญิงสาวยั่วยวน ถอดเสื้อผ้าในลีลาต่าง ๆ โดยแอบอ้างว่าเป็นตัวเอง จากนั้นจะหลอกให้เหยื่อโชว์เรือนร่างเหมือนที่ตัวเองทำ และเมื่อใดที่เหยื่อหลงเชื่อ คนร้ายจะใช้โปรแกรมอัดภาพผ่านกล้อง วิดีโอที่ถูกส่งกลับมาเอาไว้ เพื่อนำไปจำหน่ายต่อเป็น “คลิปวิดีโอ” ในรูปแบบ “โชว์เสียว” ต่าง ๆ เชื่อเหลือเกินว่ามีเหยื่อหลายต่อหลายราย ที่ถูกหลอกลวงและยังไม่รู้ตัว ดังนั้น จึงขอให้ใช้โปรแกรมแชตผ่านอินเทอร์เน็ตเหล่านี้ให้ถูกจุดประสงค์ และหากต้องการจะหาเพื่อนผ่านการพูดคุยทางอินเทอร์เน็ตจริง ๆ พึงระวังภัยเหล่านี้เอาไว้ให้มาก ก่อนที่จะพลั้งพลาดตกเป็นเหยื่อรายต่อไป.
นับถอยหลังอีกไม่กี่วันจากนี้ ก็จะย่างเข้าสู่ปีใหม่ พ.ศ. 2550 ซึ่งแน่นอนว่าเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ ๆ ย่อมก้าวหน้าขึ้นเป็นเงาตามตัว โดยเฉพาะในแวดวง “อินเทอร์เน็ต” ที่การสนทนา หรือ “แชต” ผ่านคอมพิวเตอร์ ผ่านโปรแกรมดังต่าง ๆ อาทิ “เอ็มเอสเอ็น” กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก “ภัยใกล้ตัว” ในวันนี้ จะฉายภาพให้เห็นถึงความน่ากลัวของโปรแกรมแชตเหล่านี้ ที่ปัจจุบัน สามารถสนทนาผ่านทางกล้องวิดีโอ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “เว็บแคม” ที่สามารถพูดคุยและเห็นหน้า กิริยาท่าทางของอีกฝ่ายได้ทุกอิริยาบถ สิ่งเหล่านี้ “มิจฉาชีพ” ได้อาศัยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี มาใช้หากินกันนักต่อนัก
มิจฉาชีพทั้งชายและหญิง จะใช้เว็บแคมหลอกทำทีมาพูดคุยกับเหยื่อผ่านโปรแกรมแชต ที่โดยมากแล้ว จะเป็นเหยื่อสาวอายุน้อย ๆ จากนั้นจะใช้โปรแกรม “SplitCam” เปิดวิดีโอ ซึ่งเป็นภาพหญิงสาวยั่วยวน ถอดเสื้อผ้าในลีลาต่าง ๆ โดยแอบอ้างว่าเป็นตัวเอง จากนั้นจะหลอกให้เหยื่อโชว์เรือนร่างเหมือนที่ตัวเองทำ และเมื่อใดที่เหยื่อหลงเชื่อ คนร้ายจะใช้โปรแกรมอัดภาพผ่านกล้อง วิดีโอที่ถูกส่งกลับมาเอาไว้ เพื่อนำไปจำหน่ายต่อเป็น “คลิปวิดีโอ” ในรูปแบบ “โชว์เสียว” ต่าง ๆ เชื่อเหลือเกินว่ามีเหยื่อหลายต่อหลายราย ที่ถูกหลอกลวงและยังไม่รู้ตัว ดังนั้น จึงขอให้ใช้โปรแกรมแชตผ่านอินเทอร์เน็ตเหล่านี้ให้ถูกจุดประสงค์ และหากต้องการจะหาเพื่อนผ่านการพูดคุยทางอินเทอร์เน็ตจริง ๆ พึงระวังภัยเหล่านี้เอาไว้ให้มาก ก่อนที่จะพลั้งพลาดตกเป็นเหยื่อรายต่อไป.
เตือนภัย
เตือนภัยผู้หญิง
คุณผู้หญิงทุกท่านครับ จากประสบการณ์ในการทำงานเป็น ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ 17 ปีมานี้ สิ่งที่ผมได้พบก็คือการที่ผู้หญิงตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมมากกว่าผู้ชายเหมือนกันทั่วทั้งโลก และไม่มีแนวโน้มที่จะลดจำนวนลงเลย องค์กรเอกชนหรือหน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้หญิงก็มีน้อย และในความน้อยนั้น ก็เป็นองค์กรที่เข้ามาเยียวยาผู้หญิงภายหลังจากที่เกิดเหตุแล้ว แต่ยังไม่มีองค์กรใดที่คอยเตือนภัยผู้หญิงก่อนเกิดเหตุเลย ปัจจุบันสถานการณ์ด้านอาชญากรรมทำให้เราต้องพึ่งตนเองมากขึ้น และต้องรู้เท่าทันสารพัดภัยก่อนที่จะสายเกินไป ก่อนที่ภัยจะเกิดกับคุณหรือคนที่คุณรัก
คุณผู้หญิงทุกท่านครับ จากประสบการณ์ในการทำงานเป็น ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ 17 ปีมานี้ สิ่งที่ผมได้พบก็คือการที่ผู้หญิงตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมมากกว่าผู้ชายเหมือนกันทั่วทั้งโลก และไม่มีแนวโน้มที่จะลดจำนวนลงเลย องค์กรเอกชนหรือหน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้หญิงก็มีน้อย และในความน้อยนั้น ก็เป็นองค์กรที่เข้ามาเยียวยาผู้หญิงภายหลังจากที่เกิดเหตุแล้ว แต่ยังไม่มีองค์กรใดที่คอยเตือนภัยผู้หญิงก่อนเกิดเหตุเลย ปัจจุบันสถานการณ์ด้านอาชญากรรมทำให้เราต้องพึ่งตนเองมากขึ้น และต้องรู้เท่าทันสารพัดภัยก่อนที่จะสายเกินไป ก่อนที่ภัยจะเกิดกับคุณหรือคนที่คุณรัก
ผมจึงตัดสินใจตั้ง “ศูนย์เตือนภัยผู้หญิง” ขึ้นเพื่อนำความรู้และประสบการณ์ในการป้องกันภัยที่ถูกวิธีมาเผยแพร่ และใช้เวบไซต์นี้เป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อสร้างเครือข่ายความปลอดภัยสำหรับคุณผู้หญิง ทุกคน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้หญิงไทยกว่า 30 ล้านคน จะสามารถปกป้องดูแลตัวเองได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)



